วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แสมสาร ณ สัตหีบ

"แสมสาร" ในวันนี้ประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน ได้แก่ (หมู่ที่ 1) บ้านช่องแสมสาร (หมู่ที่ 2) บ้านหนองน้ำเค็ม (หมู่ที่ 3) บ้านหัวแหลม (หมู่ที่ 4) บ้านหนองกระจง และเป็น 1 ใน 5 ตำบลของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีชายฝั่งทะเลทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตรับผิดชอบของกองทัพเรือ ที่หมายแรกขอมผมในทริปวันหยุดสั้นๆวันวิสาขบูชา 2557 ครั้งนี้คือ "เกาะแสมสาร" ครับ  พูดถึงเกาะนี้ก็ต้องมาทำความรู้จัก "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย" กันก่อนครับ

อันเนื่องมาจากพระราชกระแสและพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กองทัพเรือจึงมุ่งหน้าดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ที่เกาะแสมสาร และในส่วนของกิจกรรมสร้างจิตสำนึกแก่เยาวชน กองทัพเรือได้พิจารณาจัดตั้ง "พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย" ขึ้นบนฝั่งสัตหีบตรงข้ามเกาะแสมสาร รวมทั้งจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสาร เพื่อเป็นสื่อในการสร้างความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกแก่เยาวชนตามแนวทางพระราชดำริฯ

ในการนี้ได้ทรงมีพระราชวินิจฉัยเห็นชอบและยังพระราชทานแนวทางการดำเนินงานเพิ่มเติมด้วยว่า

"ควรให้คนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บนฝั่งมากกว่าที่จะไปรบกวนบนเกาะ"

"ที่เกาะแสมสาร จะทำแบบเกาะปอร์กอรอลส์ไม่ได้ เพราะเกาะของเราเล็ก ฉะนั้นควรให้คนมาดูแล้วกลับไป ไม่มีที่ให้ค้าง"

"เนื้อหาที่จะจัดแสดง(ในพิพิธภัณฑ์) จะต้องให้เป็นการสอนและปรับปรุงให้ใหม่อยู่เสมอ และควรมีงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง"


กองทัพเรือได้น้อมเกล้าฯ รับพระราชดำริฯ มาประมวลเป็นรูปแบบการก่อสร้างและหลักการการจัดการพิพิธภัณฑ์ฯ จนกระทั่งบัดนี้การก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยบนฝั่งแสมสาร รวมทั้งสวนพฤกษศาสตร์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสารเสร็จสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 


พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในจุดที่อยู่ตรงข้ามเกาะแสมสาร มีอาณาบริเวณประมาณ 16 ไร่ สิ่งก่อสร้างมีลักษณะเป็นอาคารไต่ระดับเขาถึงยอดเขา เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพมุมกว้าง ไกล และความลึกของทะเล โดยมุ่งที่จะให้ผู้ชมเห็นความงดงามของท้องทะเลแล้วเกิดจินตนาการและความปิติที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ตามแนวพระราชดำริ

ในหลักวิชาว่าด้วยการพิพิธภัณฑ์ ถือได้ว่าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สากลเรียกว่า NATURAL HISTORY MUSEUM  อันเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงวัตถุธรรมชาติ ทั้งในด้านธรณีวิทยา พฤกษศาสตร์ สัตวศาสตร์ ทางทะเลเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

ข้อมูล : พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

"เกาะแสมสาร" มีลักษณะเป็นรูปทรงยาวรีทอดตัวจากทิศเหนือไปทิศใต้ มีพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร (2,738 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา) อยู่ทางทิศใต้ของแหลมแสมสาร ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากฝั่งของอำเภอสัตหีบไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 8 กิโลเมตร "เกาะแสมสาร" เป็น 1 ใน 9 เกาะ ที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.ธส.) 

เห็นแผนที่นี้แล้วคิดถึง "เกาะจวง" เป็นเกาะที่อยู่ทางใต้ของเกาะแสมสาร (บนสุดของแผนที่) คณะผมเคยมาเยี่ยมชมธรรมชาติที่เกาะนี้มาแล้วเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว สนุกดีครับ ทุกอย่างยังดิบ บนเกาะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย ไม่มีห้องสุขา พวกเราที่ไปก็ไม่มีอุปกรณ์แค้มปิ้งเหมือนสมัยนี้ ปูผ้าใบผืนใหญ่ เอากระเป๋าหนุนหัว นอนเรียงกันบนชายหาดนั่นเลย อาบน้ำทะเล เอาแป้งโรยตัวโรยหัวไม่ให้ผมพันกัน ต้องขนน้ำขนข้าวไปทำกินกันเองบนเกาะ กินข้าวกับเนื้อกระป๋องที่เพื่อน "แจ๊ค" ทำหล่นทรายซะนี่ ทิ้งก็ไม่ได้เพราะมีมาน้อย จึงได้รู้จักคำว่า "นอนกลางดิน กินกลางทราย" มันเป็นอย่างไร ^_^

กลับมาที่ "เกาะแสมสาร" ครับ เกาะนี้มีชายหาดรวมทั้งสิ้น 5 แห่งได้แก่
หาดเทียน อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะแสมสาร
หาดแหลมฝรั่ง อยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะแสมสาร
หาดเตยและหาดกรวด อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะแสมสาร
หาดลูกลม อยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะแสมสาร

พิพิธพัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย กองทัพเรือ จัดให้ประชาชนไปเยี่ยมชมและศึกษาธรรมชาติบนเกาะแสมสารแบบเช้าไป เย็นกลับ ไม่อนุญาตให้ค้างคืน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กเล็กแต่เด็กโต (ป.1 ถึง มัธยม 6) คนละ 200 บาท และผู้ใหญ่คนละ 250 บาท เรือเที่ยวแรกออกจากฝั่งท่าเรือเขาหมาจอเวลา 09.00 น. และออกทุกต้นชั่งโมง

ตารางเวลาเรือ (ท่าเรือเขาหมาจอ-เกาะแสมสาร) จะออกเรือทุกต้นชั่วโมง และเรือเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากท่าเรือหาดเทียน เกาะแสมสาร คือ 17.15 น. ครับ

คำเตือน
-ห้ามนำเครื่องดื่มมีแอลกอฮอร์ข้ามไปเกาะแสมสาร
-ห้ามใส่บิกินี่ที่เกาะแสมสาร
-ตั๋วใช้ได้วันต่อวัน
-ห้ามชาวต่างชาติข้ามไปเกาะแสมสารถ้าไม่มีคนไทยไปด้วย

ซื้อบัตรโดยสารได้ตั้งแต่เวลา 08.45 น. ที่ประชาสัมพันธ์ ปากทางเข้าท่าเรือเขาหมาจอครับ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/KohSamaesan  หรือ http://www.tis-museum.org ครับ

วันหยุดยาวที่ติดกันหลายวัน มักจะมีประชาชนสนใจไปชมเกาะแสมสารจำนวนมาก ในขณะที่เจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ทางเจ้าหน้าที่จึงอาจปิดการจำหน่ายตั๋วเรือก่อนเวลาได้นะครับ วันหยุดยาวจึงควรโทรศัพท์ถามก่อนครับ

จอดรถของท่านไว้บริเวณท่าเรือเขาหมาจอ แล้วเดินต่อไปอีกอึดใจนึงเพื่อไปลงเรือประมง ที่จอดอยู่ปลายท่าเรือ

เจ้าหน้าที่เรียกว่า "เรือประมง" แต่ผมว่าภาระกิจคงจะไม่ใช่การหาปลาแน่ๆ

บนเกาะแสมสารไม่มีอาหารจำหน่ายครับ จึงต้องเตรียมกันไปเองจากฝั่ง แต่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำอัดลม ขนมเล็กน้อย จำหน่ายครับ ท่านสามารถซื้อข้าวกล่องจากศูนย์อาหารที่อยู่ใกล้ๆกับอาคารประชาสัมพันธ์ (ที่ซื้อตั๋วเรือ) นำไปกินที่เกาะได้ครับ

เรือประมงใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 20 นาที นั่งยังไม่ทันได้เพลินก็ถึงเกาะแล้วครับ

เข้าเทียบท่าที่หาดเทียน ฝั่งตะวันออกของเกาะแสมสาร

เขตทหาร สะอาด เป็นระเบียบ ดูคนน้อย สงบเงียบ เพราะเรือเที่ยวนี้เป็นรอบแรกของวันนี้ หลังจากนี้ความโกลาหลจึงได้บังเกิดขึ้น...

แผนที่จุดศึกษาธรรมชาติที่เกาะแสมสาร หาดที่เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เยี่ยมชมศึกษาธรรมชาติมีเพียง 2 หาด คือ หาดเทียน (ทางด้านซ้ายของแผนที่) กับหาดลูกลม (ทางด้านขวาของแผนที่) เท่านั้นครับ

เกาะแสมสาร เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.ธส.)

เมื่อถึงเกาะแสมสารแล้ว ก่อนทำกิจกรรมใดๆทุกคนต้องมานั่งฟังบรรยายสรุปจากหัวหน้าเกาะกันก่อนครับ จะได้เข้าใจว่าตรงไหนให้ไปเที่ยวชมได้ ตรงไหนห้ามเข้า

ฟังบรรยายเสร็จแล้ว แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมตามถนัด ดังนี้
1.ดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่หาดเทียน
2.นั่งเรือท้องกระจกที่หาดเทียน (มี 2 ลำ ลงได้ลำละ 8 คน)
3.ขี่จักรยานชมเกาะ (ระวังให้มาก ทางไปหาดลูกลม ลาดชัน มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง)
4.ไปดำน้ำดูโลกใต้ทะเลที่หาดลูกลม (มีรถของทหารรับจากหาดเทียนไปหาดลูกลม)

กิจกรรมทั้งหมดนี้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ได้รวมอยู่ในค่าตั๋วที่คุณซื้อมาทั้งหมดแล้ว (ยกเว้นเก้าอี้นอนชายหาด ตัวละ 20 บาท นอนได้ทั้งวันครับ)

ผมสนใจดำน้ำที่หาดเทียนก่อน เจ้าหน้าที่ให้ไปลงชื่อรับแจกหน้ากาก ท่อหายใจ เสื้อชูชีพ จากนั้นไปฟังคำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ แล้วลงทดสอบอุปกรณ์ที่หน้าหาดเทียนครับ

มีเพิงไว้ให้หลบแดด ถ้าอยากนั่งเก้าอี้ชายหาด ตัวละ 20 บาท นอนได้ทั้งวันครับ

ศาลาริมท่าเรือ ผมก็ได้ศาลานี้เป็นที่พักของ พักหลบแดด

ซุ้มขายของ ร่มสีแดงๆนั่นขายไอติมกระทิสดครับ

ลงเรือเล็กไปจุดดำน้ำ เรือจะพาออกจากหาดเทียนไปทางใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงจุดดำน้ำซึ่งเจ้าหน้าที่จะผูกทุ่นเป็นวงกลมขนาดใหญ่เอาไว้แล้ว ให้นักดำน้ำเกาะเชือกทุ่น แล้วให้สาวเชื่อกไปเรื่อยๆวนตามเข็มนาฬิกา

ชมภาพบรรยากาศใต้น้ำกันครับ

น้ำมีขุ่นบ้างเล็กน้อย

มีปลาการ์ตูนส้มเหลือง

หอยเมือเสือขนาดใหญ่ ที่เห็นนี่ประมาณ 1 ฟุตได้ครับ

หอยมือเสือ(Giant Clam) เป็นหอยสองฝาขนาดใหญ่ พบแพร่กระจายอยู่ในเฉพาะแถบทะเลอินโดแปซิฟิคเท่านั้น มี 2 สกุล คือ Tridacna และ Hippopus ทั่วโลกมี 9 ชนิด สำหรับในทะเลไทยปัจจุบันพบที่มีชีวิตอยู่เพียง 3 ชนิด ได้แก่
          Tridacna squamosa
          T. maxima
          T. cracea

หอยมือเสือมีลักษณะพิเศษคือในเนื้อเยื่อแมนเทิลที่มีสีสันสวยงามนั้นมีสาหร่ายที่เรียกว่าzooxanthellae อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นการอยู่รวมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน (Synbiosis) โดยสาหร่ายได้ที่อยู่อาศัย ส่วนหอยจะได้รับสารอาหารจากการสังเคราะห์แสงของสาหร่าย หอยมือเสือจึงอาศัยอยู่เฉพาะในเขตน้ำตื้นและใสที่แสงสามารถส่องผ่านได้ดีมักพบตามแนวปะการังในระดับความลึกไม่เกิน 2 เมตร

หอยมือเสือทุกตัวมีสองเพศในตัวเดียวโดยช่วงแรกยังไม่สามารถระบุเพศได้จนประมาณ 2 ปีขึ้นไปจะเป็นเพศผู้มีการสร้างน้ำเชื้อและเมื่ออายุประมาณ 4 ปีครึ่งจะเปลี่ยนเป็นเพศเมียเริ่มสร้างไข่เพื่อสืบพันธุ์ ในเขตร้อนหอยมือเสือสามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งปีขณะที่ในเขตอบอุ่นหอยจะสืบพันธุ์เฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

หอยมือเสือเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับการขึ้นบัญชีในรายชื่อสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์และพืชที่ใกล้สูญพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES) และจัดเป็นสัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535ของไทย ห้ามทำการจับ เคลื่อนย้าย ซื้อ-ขาย หรือมีไว้ในครอบครองโดยมิได้อนุญาต ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือซากเปลือก การมีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตเป็นความผิดตามกฎหมายจะมีโทษผู้ฝ่าฝืนอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อมูล : อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

อันนี้แม่บ้านผมเอง นำมาเองจากบ้านครับ ^_^

ปะการังมีให้ชมบ้าง

นีโม่กับบ้านของเขา ดอกไม้ทะเล

ท่านทราบหรือไม่ ดอกไม้ทะเลไม่ใช่พืช

ดอกไม้ทะเลเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวอ่อนนิ่ม มีวงหนวดรอบปาก บริเวณหนวดจะมีเข็มพิษสำหรับจับเหยื่อ ปลาการ์ตูนมักอาศัยอยู่ร่วมกับดอกไม้ทะเลในแนวปะการัง โดยที่ไม่ได้รับอันตรายจากเข็มพิษของดอกไม้ทะเล และยังอาศัยดอกไม้ทะเลเป็นที่กำบัง หลบภัย และวางไข่ เนื่องจากมีเมือกชนิดพิเศษป้องกันอันตรายจากเข็มพิษได้ สำหรับดอกไม้ทะเลได้รับประโยชน์จากปลาการ์ตูนโดยอาศัยปลาการ์ตูนในการล่อ เหยื่อที่เป็นปลาขนาดใหญ่ มาจับกินเป็นอาหาร

ข้อมูล : อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

 
ปลาการ์ตูนมักจะอยู่กันเป็นคู่ๆ บางคู่อาจมีลูกปลาขนาดเล็กอาศัยร่วมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามในดอกไม้ทะเลดอกหนึ่ง จะมีปลาตัวผู้และตัวเมียจับจองอยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น ปลาตัวเมียจะมีขนาดโตกว่าตัวผู้และสมาชิกตัวอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด และมันจะทำหน้าที่เป็นผู้นำคอยปกป้องอาณาเขตที่เป็นแหล่งอาศัยของครอบครัว เมื่อใดที่ปลาตัวเมียตายไป ปลาตัวใหม่จะเร่งเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ถ้าเป็นเพศผู้มันจะกลายเป็นเพศเมีย เพื่อทำหน้าที่เป็นราชินีคุ้มครองครอบครัวสืบไป  ทั้งนี้เพราะปลาการ์ตูนสามารถเปลี่ยนเพศได้

ข้อมูล : ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งกระบี่
  

นสร = หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จัดรถรับส่งจากหาดเทียนไปหาดลูกลม 


ขอชมห้องพลขับหน่อย คันนี้เป็น 6x6 ครับ

ผมมาเรือเที่ยวแรก 9.00 น. กว่าจะจบกิจกรรมดำน้ำที่หาดเทียนก็ล่วงเข้าใกล้จะเที่ยงวัน ผู้คนก็ทะยอยมามากมาย ที่จริงผมวางแผนไว้ว่าหลังจากจัดการกับข้าวกระเพราะ+ไข่ดาวที่เราหอบหิ้วมาจากฝั่งหมดแล้ว เราจะไปต่อกันที่หาดลูกลม แต่ทว่า แสงแดด ความร้อน และคลื่นมหาชนที่หลังไหลกันมาชมเกาะกันไม่หยุด ได้ดูดพลังชีวิตของเราลงจนถึงขีดแดงซะแล้ว สภาการท่องเที่ยวครั้งนี้จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 3-0 ว่า "กลับกันดีกว่า สู้ไม่ไหว" การเยี่ยมชมเกาะแสมสารจึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ครับ

ที่หมายต่อไป "Percula Farm" เป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาทะเล จุดเด่นจะอยู่ที่ปลาการ์ตูน ที่นี่เขาจัดโซนนิทรรศการให้ชมปลาการ์ตน เปิดให้เข้าชมเป็นการทั่วไปตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. คิดค่าเข้าชมคนละ 20 บาท ครับ

ปลาการ์ตูนส้มขาว (Clown Anemonefish)

ปลาการ์ตูน เป็นปลาที่ถูกจัดอยู่ในครอบครัวปลาสลิดหิน (damselfishes, family pomacentridae) (สุภาพร, 2543) ปัจจุบันปลาการ์ตูนทั่วโลกที่สำรวจพบ และได้รับการจำแนกแล้วมี 28 ชนิด เป็นสกุล (genus) Amphiprion จำนวน 27 ชนิด และ สกุล Premnas อีก 1 ชนิด คือ spinecheek anemonefish, Premnas biaculeatus ซึ่งลักษณะที่ใช้แยกปลาสกุลนี้ออกมาคือ มีหนามขนาดใหญ่ (enlarged spine) บริเวณใต้ตา (Allen, 1997) อุ่นจิต (2537) กล่าวว่า ปลาการ์ตูนที่พบในน่านน้ำไทยมี 7 ชนิด แบ่งเป็นฝั่งอันดามัน 5 ชนิด ได้แก่ ปลาการ์ตูนส้มขาว ปลาการ์ตูนอินเดียน ปลาการ์ตูนลายปล้อง ปลาการ์ตูนลายปล้องหางเหลือง และปลาการ์ตูนแดงดำ ส่วนปลาการ์ตูนที่พบในอ่าวไทยมี 2 ชนิด คือ ปลาการ์ตูนหลังอาน และปลาการ์ตูนอินเดียนแดง แต่ ธรณ์ (2544) กล่าว ว่า ปลาการ์ตูนลายปล้องสามารถพบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน นอกจากนั้นยังพบปลาการ์ตูนส้มขาว และ ปลาการ์ตูนอินเดียนที่เกาะโลซิน จังหวัดนราธิวาส (อ่าวไทย) อีกด้วย

ข้อมูล : ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งระยอง

ปลาการ์ตูนดำ (Black Percula)

เริ่มแรกต้องเข้าในก่อนว่า ปลาการ์ตูน์ที่กล่าวมาทั้งหมดมีปลาอยู่แค่ 2 ชนิด (species) คือ
ชนิดที่ 1. Amphiprion ocellaris ซึ่งก็คือปลาการ์ตูนส้มขาว หรือจะเรียก นีโม่ ก็แล้วแต่ เจ้าการ์ตูนส้มขาว ถ้าเป็นลายธรรมดาทุกคนก็ต้องรู้จักกันดี เพราะมันเป็นตัวแทนของปลาการ์ตูนทุกชนิดก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันนี้ มันมีการผันแปรของสี โดยส่วนที่เป็นสีส้ม หรือส้มเหลือง ที่เห็นจนชินตา ถูกแทนที่ด้วย สีดำ เลยกลายเป็นปลาการ์ตูนดำขาวไปแล้วนั่นเอง ซึ่งคนในวงการปลาสวยงามเรียกมันว่า ปลาการ์ตูนดำ ปลาการ์ตูนส้มขาว สายพันธุ์ปลาการ์ตูนดำนี้ไม่มีในบ้านเรา แต่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ และมีการเพาะเลี้ยงได้สำเร็จแล้วในเมืองไทยโดยนักเพาะพันธุ์หลาย ๆ ท่าน เพราะเทคนิคการเพาะพันธุ์ก็ไม่แตกต่างอะไรกับปลาการ์ตุนชนิดอื่น ๆ สรุปก็คือว่า ปลาการ์ตูนส้มขาวกับปลาการ์ตูนดำเป็นปลาชนิดเดียงกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์ คล้าย ๆ กับคนผิวขาวกับคนผิวดำ แต่ก็คนเหมือนกัน พบว่า ปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์สีมักไม่ดำสนิท คือเป็นดำปนส้ม จึงดูเป็นสีด่าง ๆ ไม่ค่อยสวย แต่ถ้าเลี้ยงดี ๆ สีก็ดำขึ้นได้ หรือบางตัวอาจมีสีส้มโผล่ออกมาชัดเจน เช่นที่หน้า

ชนิดที่ 2. Amphiprion percula หรือปลาการ์ตูน เพอร์คูล่า ปลาชนิดนี้ไม่มีในบ้านเรา ทุกสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศ ปัจจุบันเพาะพันธุ์กันได้ทั่วไป ปกติมันก็คล้ายกับปลาส้มขาวมาก มากจนต้องใช้ความชำนาญในการแยกความแตกต่าง สีพื้นฐานของเพอร์คูล่า ก็คล้ายกับส้มขาว คือ สีส้มกับขาว ปลาสายพันธุ์นี้ที่เป็นที่ต้องการของตลาดต้องเป็น เสื้อกั๊ก หรือไม่ก็แบล็คเพอร์คูล่า เสื้อกั๊ก คือปลาที่มีสีดำต่อกันระหว่างแถบขาวที่หัวกับแถบขาวกลางตัว ซึ่งแถบดำก็มีขนาดแตกต่างกัน จนบางตัวดำทั้งหมดก็มี ส่วนแล็คเพอร์คูล่า ก็คือปลาที่มีสีดำแทนที่สีส้มตลอดลำตัว แต่ยังมีสีส้มอยู่ทีหน้า และตามครีบต่างๆ ผมยังไม่เคยเห็นว่าปลาชนิดนี้ที่มีสีดำแทนที่ส่วนสีส้มทั้งหมด ถ้าจะพูดอีกแนวหนึ่งก็คือ ปลาการ์ตูนเพอร์คูล่ามีเปอร์เซ็นต์ของสีดำที่แทนที่สีส้มบนตัวของมันหลาย ๆ ระดับ จนระดับมากที่สุดก็คือ แบล็คเพอร์คูล่า

ข้อมูล : สำนักวิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กรมประมง

บ่อเพราะพันธ์ุกลางแจ้งขนาดใหญ่มาก มีหลายบ่อ

บ่อในร่ม เพราะพันธุ์ปลาทะเลหลากหลายชนิด

จุ่มมือในบ่อ ปรับ 5,000 นะครับ

ทำบุญกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน ที่หมายสุดท้ายของทริปนี้ "วัดช่องแสมสาร"ครับ

สักการะท่านท้าวมหาพรหม

ท้าวมหาพรหมปางสวัสดี ขนาดหน้าตัก 4.99 เมตร สูง 7.80 เมตร

การสักการะท้าวมหาพรหม ตามทิศต่างๆ ดังนี้
ด้านพระพักตร์ทิศเหนือ : บูชาเพื่อขอพรเรื่อง อาชีพ หน้าที่ การงาน
ด้านพระพักตร์ทิศใต้ : บูชาเพื่อขอพรเรื่อง เกียรติยศ ชื่อเสียง
ด้านพระพักตร์ทิศตะวันออก : บูชาเพื่อขอพรเรื่อง ครอบครัว ขอมีบุตร และสุขภาพ
ด้านพระพักตร์ทิศตะวันตก : บูชาเพื่อขอพรเรื่อง อนาคต โชคลาภ

สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากวัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา

ลอดใต้โบสถ์และสักการะพระราหู

คู่มือพิธีลอดใต้โบสถ์

สวาหาย [สะ-หฺวา-หาย] น. = คาถาคำสุดท้ายเมื่อเสกมนตร์ เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์, พระอาจารย์กล่าวแล้ว อย่างนั้น, คำนี้มาจาก สวาหะ (สุ = ดี + อาห = กล่าว) หมายถึง กล่าวดีแล้ว.

ข้อมูล : พจนานุกรม สนุก.คอม



แสมสาร ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว อาจด้วยเหตุว่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯนักใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาทีก็ถึงแล้ว หากมีวันหยุดสั้นๆหรือแม้จะเป็นทริปเสาร์อาทิตย์ ก็เหมาะสมไม่น้อยทีเดียวที่จะมาเยือน แสมสาร...

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ สวัสดี
นายทัศนาจร ออนไลน์
16 พฤษภาคม 2557



พิกัด GPS

แยกแสมสาร.3 : N12.66735 E100.95196
แยกแสมสาร.3126 : N12.64481 E100.95316
ปชส.พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติฯ : N12.60281 E100.95001
ท่าเรือเขาหมาจอ : N12.59990 E100.94935
ท่าเรือหาดเทียน เกาะแสมสาร : N12.58621 E100.95470
Percula Farm : N12.60307 E100.95416
วัดช่องแสมสาร : N12.60100 E100.95851