อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
ชื่อเมืองศรีเทพ
ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2447 ในคราวที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์ สืบเนื่องจากทรงค้นพบชื่อนี้ในทำเนียบเก่าบอกรายชื่อหัวเมือง
และในสมุดดำซึ่งเป็นต้นร่างกะระยะทางให้คนไปแจ้งข่าวการสิ้นรัชการที่ 2
ตามหัวเมืองต่างๆ มีเส้นทางหนึ่งไปทางเมืองสระบุรี เมืองชัยบาดาล เมืองศรีเทพ
และเมืองเพชรบูรณ์ จึงตั้งสมมุติฐานว่า เมืองศรีเทพคงอยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก
ในคราวนั้นทรงสืบค้นพบว่า ศรีเทพ เป็นชื่อเดิมของเมืองวิเชียรบุรี
ซึ่งเพิ่งจะมาเปลี่ยนชื่อในสมัยรัชการที่ 3 ทรงสันนิษฐานว่าชื่อเมืองศรีเทพที่วิเชียรบุรี
มีต้นเค้ามาจากเมืองโบราณที่อยู่ทางใต้ลงมาราว 30 กิโลเมตร
ซึ่งทางสำรวจพบวัตถุโบราณโบราณสถานต่างๆมากมาย จึงทรงเรียกเมืองโบราณแห่งนี้ว่า
เมืองศรีเทพ นับได้ว่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงเรียกชื่อเมืองนี้ว่า เมืองศรีเทพ เป็นประองค์แรกและได้ใช้ชื่อนี้มาจนปัจจุบัน
เมืองศรีเทพ
มีคูน้ำคันดินเป็นกำแพงเมืองล้อมรอบ พื้นที่ 2,889 ไร่ เมืองในมีเนื้อที่ประมาณ
1,300 ไร่ ลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 กิโลเมตร
มีช่องประตูเมือง 6 ช่องทาง พื้นที่ภายในเป็นที่ราบลอนลูกคลื่น มีโบราณสถานราว 40
แห่ง มีสระน้ำและหนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป เมืองนอกมีเนื้อที่ประมาณ 1,589 ไร่
ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อออกไปทางด้านทิศตะวันออกของเมืองใน
พื้นที่เป็นที่ราบมีช่องประตูเมือง 6 ช่องทาง มีสระน้ำอยู่ทั่วไปและมีโบราณสถานราว
54 แห่ง ส่วนนอกเมืองโบราณมีโบราณสถานอยู่ทั่วไปราว 50 แห่ง
โบราณสถานที่สำคัญ
เขาคลังใน : เป็นศาสนสถานประเภทวัดพุทธศาสนา มีกำแพงศิลาล้อมรอบ ชื่อโบราณสถานมีที่มาจากความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่เชื่อว่าเป็นคลังเก็บสิ่งของมีค่า
หรือคลังอาวุธในสมัยโบราณ
อาคารประธานเป็นอาคารในศิลปะแบบทวาราวดี
เช่นเดียวกันกับโบราณสถานที่วัดโขลง เมืองคูบัว จังหวัดราชบุรี
แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทิศตะวันออก ส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดคือส่วนฐานก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน
ภายในก่อทึบตัน ที่ส่วนล่างของฐานยังเหลือภาพปูนปั้นประดับลายก้านขด รูปสัตว์
และคนแคระแบก กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 14 ด้านหน้ามีบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน
ซึ่งยังเหลือปูนฉาบเป็นลานกว้าง มีร่องรอยว่าเดิมอาจมีสถูปประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันตก
และวิหารขนาดเล็กอยู่ด้านหน้า แต่ปัจจุบันพังทลายไปเกือบจะไม่เหลือร่องรอย
ภายในบริเวณวัดยังมีเจดีย์ราย วิหาร และอาคารขนาดเล็กหลายแห่ง
ปรางค์ศรีเทพ : เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ปราสาทประธานเป็นแบบศิลปะเขมร
ส่วนบนก่อด้วยอิฐฐานเป็นศิลาแลงฉาบปูน ตั้งอยู่บนลานดินที่ก่อรอบด้วยศาลาแลงเป็นฐานสี่เหลี่ยมยกพื้นสูง
หันหน้าไปทางทิศตะวันตก สองข้างลานด้านหน้ามีบรรณาลัย 2 หลัง
เป็นที่เก็บคัมภีร์ทางศาสนา ปัจจุบันเหลือเพียงฐาน
มีทางเดินรูปกากบาทเรียกว่าสะพานนาค เชื่อมต่อระหว่างโคปุระหรือประตูทางเข้าด้านหน้า
กับพื้นที่ส่วนล่างซึ่งมีทางเดินศิลาแลง และฐานอาคารประกอบพิธีกรรมอีกหลายแห่ง
จากการขุดค้นโบราณสถาน
พบทวารบาลหินทรายสมัยบายน และชิ้นส่วนทับหลัง กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17
นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนกลีบขนุนที่ยังสลักไม่เสร็จ
จึงสันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้คงสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดูในราวพุทธศตวรรษที่
16-17
และได้รับการซ่อมแซมแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนามหายานตามความนิยมในช่วงสมัยบายนของเขมรในต้นพุทธศตวรรษที่
18 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
ปรางค์สองพี่น้อง : เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ปราสาทประธานเป็นแบบศิลปะเขมร ก่อด้วยอิฐ
ฐานเป็นศิลาแลง ฉาบปูนทั้งองค์ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก
มีปราสาทหลังเล็กที่สร้างเพิ่มขึ้นภายหลังตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน
จึงเป็นที่มาของชื่อโบราณสถาน
บริเวณหน้าปราสาทมีทางเดินและอาการประกอบพิธีกรรมต่างๆก่อด้วยศิลาแลงหลายหลัง
ด้านหน้าสุดมีทางเดินรูปกากบาท
และจากการขุดค้นโบราณสถานได้พบประติมากรรมรูปสุริยเทพ หรือพระอาทิตย์
ที่บริเวณทางเดินด้านนี้
การขุดค้นโบราณสถานพบทับหลังจำหลักรูป
“อุมามเหศวร” ซึ่งปัจจุบันติดตั้งอยู่ที่ปราสาทหลังเล็ก
มีลักษณะศิลปะแบบบาปวนนครวัด ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16-17 และรูปเคารพได้แก้ โคนนทิ
ฐานโยนี และศิวลึงค์ ถูกฝังไว้ในระดับใต้ฐานอาคาร จึงสันนิษฐานว่าแต่เดิมโบราณสถานแห่งนี้คงจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยในศาสนาฮินดู
ลัทธิไศวนิกาย ในราวพุทธศตวรรษที่ 17
ต่อมาอาจเปลี่ยนแปลงเป็นศาสนสถานในศาสนาพุทธมหายาน เช่นเดียวกับปรางค์ศรีเทพ
ในราวพุทธศตวรรษที่ 18 จึงได้มีการฝังรูปเคารพในศาสนาเดิมไว้ใต้ฐานอาคาร
อุทยานประวิติศาสตร์ศรีเทพ อยู่ในความดูแลของ สำนักศิลปากรที่ 4
ลพบุรี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม , มีวิทยากรนำชมอุทยานฯ บริการนำชมโบราณสถานรอบเมืองในด้วยรถไฟฟ้า
ที่ตั้ง : อยู่ในอำเภอศรีเทพ
ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 107 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอวิเชียรบุรีประมาณ 25
กิโลเมตร นับจากสี่แยกทางหลวงหมายเลข 21 ตัดกับทางหลวงหมายเลข 2211 (ก็คือสี่แยกวิเชียรบุรี
ที่มีร้านไก่ย่างเยอะๆนั่นแหละครับ) มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกอีก 7 กิโลเมตร
ก็จะถึงอุทยานประวิติศาสตร์ศรีเทพ
พิกัด : ทางเข้าด้านศูนย์ข้อมูลฯ
อุทยานประวิติศาสตร์ศรีเทพ (เมืองใน) N15.47403 E101.14639
ค่าธรรมเนียม
: ชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท, เปิดบริการทุกวันระหว่าง 08.00 – 16.30 น.
ข้อมูล
: จากแผ่นพับของ
อุทยานประวิติศาสตร์ศรีเทพ
สำนักศิลปากรที่ 4
ลพบุรี
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์
ปรางค์ศรีเทพ |
เขาคลังใน |
ปรางค์สองพี่น้อง |