แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จ.จันทบุรี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จ.จันทบุรี แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

โบราณสถานเมืองเพนียด

14 เมษายน 2554


บันทึกการเดินทางหน้านี้ผมชวนไปเที่ยวชมของโบราณที่ชื่อว่า "โบราณสถานเมืองเพนียด"  เป็นเมืองโบราณมีชื่อปรากฏในพงศาวดารมาแต่แรกสร้างกรุงศรีอยุธยา จากการสำรวจพบซากเมืองเก่าเมืองจันทบุรีอยู่ 2 แห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ในตำบลตลาดจันทบุรีตะวันออก ซึ่งยังมีคูเมืองและเชิงเทินพอสังเกตได้ ส่วนอีกแห่งตั้งอยู่ในตำบลคลองนารายณ์ ชาวบ้านเรียกว่า "เมืองเพนียด" หรือ เมืองกาไวมีผู้ขุดพบศิลาจารึกที่วัดเพนียด ซึ่งเป็นวัดโบราณอยู่ทางทิศใต้ของกำแพงเมือง 400 เมตร


โบราณสถานเมืองเพนียด ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ห่างจากวัดทองทั่วประมาณ 300 เมตร โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2478 ระบุไว้ว่ามีสิ่งสำคัญคือ กำแพงก่อด้วยศิลาแลง ด้านกว้าง 16 เมตร ด้านยาว 26 เมตร สูง 3 เมตร


สถานที่แห่งนี้สันนิษฐานว่าเดิมเป็นที่ตั้งเมืองจันทบุรียุคแรก มีอายุไม่น้อยกว่า 1,000 ปี การสำรวจสภาพของโบราณสถานเมืองเพนียด เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2499 ได้ความว่า เพนียดเป็นกำแพงก่อสร้างด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ในกำแพงเป็นดินกว้างด้านละ 17 เมตร ยาวด้านละ 57 เมตร หนา 3 เมตรเท่ากันทุกด้าน แต่กำแพงด้านตะวันออกถูกทำลายไปหมดแล้วเหลือแต่ดินสูงเป็นเค้าอยู่  อีก 3 ด้านก็ถูกทำลายไปมาก เหลือสูงเพียง 1 เมตร ถึง 3 เมตร ด้านนอกของกำแพงพอกด้วยดินหนาประมาณ 3 เมตร ถึง 8 เมตร โบราณสถานเมืองเพนียดมี 2 แห่ง อีกแห่งหนึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร แต่หลังนี้ถูกทำลายโดยการรื้อขนเอาศิลาแลงไปจนหมดสิ้นแล้ว เหลือให้เห็นมูลดินสูงเป็นแนวอยู่ซึ่งหากไม่ได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านแถบนั้นก็ไม่ทราบว่า คือ เพนียดโบราณ



บริเวณเมืองเพนียดมีเค้าถนนโบราณหลายสาย มีซากสิ่งก่อสร้างปรักหักพังอยู่ทั่วไป เช่น อิฐโบราณ ศิลาแลง เศษถ้วยชามโบราณ เป็นต้น โบราณวัตถุที่ขุดพบเป็นหินทรายแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ มีเหลืออยู่ที่วัดทองทั่วก็หลายชิ้น บางชิ้นถูกนำไปไว้ที่อื่น เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกรุงเทพมหานคร


โบราณสถานเมืองเพนียด ตั้งอยู่ไม่ไกลกับวัดทองทั่ว ตำบลคลองนารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีพระพุทธสุวรรณมงคล ศากยมุนีศรีสรรเพ็ชญ์ (หลวงพ่อทอง) ประดิษฐานอยู่ หลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปที่มีอายุเก่าแก่คู่มากับพระอุโบสถเดิม ตามหลักฐานวัดทองทั่วได้ตั้งวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2310 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2318 แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าหลวงพ่อทองสร้างขึ้นในช่วง พ.ศ.ใด แต่คงต้องอยู่ในระหว่าง 8 ปีนี้ เพราะจะต้องสร้างพระอุโบสถเรียบร้อยแล้วจึงจะขอพระราชทานวิสุงคามสีมาได้


ภายในวัดทองทั่วมีการจัดแสดงวัตถุโบราณ และมีทับหลังอยู่ชิ้นหนึ่งเป็นที่น่าสนใจมาก คือ ทับหลังแบบถาราบริวัต (ถาลาบริวัต) ซึ่งมีอายุอยู่ในราว พ.ศ.1150 นางมิเรย เบนิสตี (Mireille Benisti) นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศษล่าวถึงทับหลังแบบถาลาบริวัต (Thala Borivat) ว่าเป็นทับหลังที่เก่าแก่ที่สุดของศิลปขอมในราวกลาง พุทธศตวรรษที่ 12 ซึ่งค้นพบทับหลังศิลา 6 ชิ้น ที่ถาลาบริวัต บริเวณฝั่งขวาของแม่โขง และพบที่ปราสาทขตป (Khtop) 2 ชิ้น  นางเบนิสตี เห็นว่าทับหลังซึ่งค้นพบที่ถาลาบริวัตเก่ากว่าที่สมโบร์ไพรกุก และถาลาบริวัตอาจเป็นสถานที่ตั้งของเมืองภวปุระของพระเจ้าภรวรมัน  สำหรับทับหลัง 2 ชิ้น ซึ่งค้นพบที่ปราสาทขตปนั้น นางเบนิสตีเห็นว่าคงสลักขึ้นในปลายศิลปแบบสมโบร์ไพรกุก ราว พ.ศ. 1200  


ในประเทศไทยได้ค้นพบทับหลังแบบถาลาบริวัต 4 ชิ้นที่วัดทองทั่ว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งนับว่าเป็นทับหลังขอมแบบถาลาบริวัตอย่างแท้จริง นอกจากนั้น ยังได้ค้นพบศิลาจารึกขอมในพุทธศตวรรษที่ 12 หลักหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงการสร้างศาสนสถานของพระเจ้าอีศานวรมันที่ 1 พร้อมกันนี้ยังมีทับหลังอีกชิ้นหนึ่งซึ่งรักษาอยู่หน้าอุโบสถวัดสุปัฏนาราม จังหวัดอุบลราชธานี อาจกล่าวได้ว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างศิลปขอมแบบ ถาลาบริวัตและสมโบร์ไพรกุก และอาจสลักขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 1150.




พิกัดทางเข้าโบราณสถานเมืองเพนียด - N12.58595 E102.14281
พิกัดโบราณสถานเมืองเพนียด - N12.58586 E102.14422
พิกัดวัดทองทั่ว - N12.58763 E102.14260

ขอขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์


วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

14 เมษายน 2554

อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางของกลุ่มคริสตชนมาเป็นเวลานานถึง 300 ปี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดความเชื่อแบบครสิตชน โดยอยู่ภายใต้การดูแลของพระสังฆราชและคณะสงฆ์สังฆมณฑลจันทบุรี มีอดีตเจ้าอาวาสผู้ศักดิ์สิทธิ์ของวัดอยู่องค์หนึ่งคือ นักบุญ เอเตียน กือโนต์ โดยมีภาพของท่านบนกระจกสี และรูปปั้นของท่านอยู่ภายในวัดและบ้านพักพระสงฆ์


รูปแบบการก่อสร้าง เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตก "ศิลปะแบบโกธิค" ที่หอสูงจะมีนาฬิกาเรือนใหญ่ขนาดเส้นรอบหน้าปัด 4.7 เมตร ติดอยู่ จากหอสูงนี้สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองจันทบุรี ได้ไกลออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร วัดนี้ได้รับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอกด้วยศิลปะเก่าแก่อย่างสวยงามและมีคุณค่ายิ่งนัก เช่น ภาพกระจกสีของบรรดานักบุญหลายองค์ที่บริเวณเหนือพระแท่น และเหนือหน้าต่างของวัด เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องมาจากภายนอกจะทำให้มองเห็นความงดงามของภาพบนกระจกสีได้อย่างชัดเจน บริเวณเหนือพระแท่นกลางวัดมีรูปปั้นพระประธาน คือ รูปพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ตั้งตระง่านอย่างงดงามรวมถึงรูปปั้นของนักบุญยออากิม และนักบุญอันนา ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของพระนาง


วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2255 ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดโบสถ์ อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี ต่อมา พ.ศ.2377 ได้ย้ายมาฝั่งตะวันออกของแม้น้ำ และได้สร้างเป็นอาคารถาวรก่ออิฐถือปูนตามศิลปะแบบโกธิค โดยเริ่มสร้าง 6 มกราคม พ.ศ.2499 แล้วเสร็จสมบูรณ์จึงได้มีพิธีเสกอย่างสง่าโดยได้รับเอา พระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นองค์อุปถัมภ์ของวัดเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ.2452 และได้สถาปนาขึ้นเป็นอาสนวิหารเมื่อ พ.ศ.2487


รูปปั้นพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ที่ประดับด้วยอัญมณีหลากหลายทั้งองค์ หลายพันเม็ด ล้ำค่า สวยงามยิ่งนัก


ที่เห็นไกลๆน่าจะเป็นรูปปั้นของนักบุญ เอเตียน กือโนต์


กระจกสีสวยงามจริงๆครับ 




ขอเสริมอีกนิดว่า การเข้าชมที่นี่มีระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามดังนี้ครับ

1. การแต่งกายให้สุภาพ และเหมาะสมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
1.1 ผู้ชาย ห้ามใส่เสื้อกล้าม รองเท้าแตะ
1.2 ผู้หญิง ห้ามใส่เสื้อกล้าม หรือเสื้อไม่มีแขน กางเกงหรือกระโปรงสั้นเหนือเข่า รองเท้าแตะ
1.3 หากแต่งกายไม่สุภาพ และมีความประสงค์จะเข้าชมอาสนวิหารฯ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับผ้าคลุมไหล่ หรือผ้านุ่ง (อยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ประจำอาสนวิหารฯ)

2. สำรวมกิริยา
2.1 ไม่ส่งเสียงดัง
2.2 ไม่แสดงกิริยาไม่สุภาพ และไม่เหมาะสม เช่น ยกเท้าขึ้นพาดบนเก้าอี้ เดินโอบกัน กอดกัน เนื่องจากอาสนวิหารฯ เป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์
2.3 ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้ามารับประทานในอาสนวิหารฯ และห้ามทิ้ง เศษขยะใดๆ ในอาสนวิหารฯ
2.4 ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ และห้ามนำสื่อใดๆ อันส่งเสียงดับรบกวนต่อความสงบของ ศาสนสถาน เช่น เครื่องเล่นเพลง เป็นต้น

3. การบันทึกภาพ
3.1 ต้องไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมเมื่อถ่ายภาพในอาสนวิหารฯ
3.2 ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพบุคคลโดยมีบรรณฐาน (พระแท่นศักดิ์สิทธิ์) เป็นฉากประกอบ โดยแสดงกิริยาไม่สุภาพหากฝ่าฝืนจะยึดฟิล์มหรือสื่อบันทึกภาพนั้นๆ
3.3 ห้ามมิให้บันทึกภาพรบกวนพิธีกรรม ห้ามมิให้ผู้บันทึกภาพเดินผ่านช่องทางเดินกลางส่วนหน้านับแต่แนวประตูซ้ายขวา และห้ามหยุดบันทึกภาพบริเวณหน้าพระแท่น โดยเด็ดขาด ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสเท่านั้น

4. ห้ามเข้าบริเวณบรรณฐาน (พระแท่นศักดิ์สิทธิ์) ธรรมาสน์โบราณ ตู้แก้บาป ซึ่งเป็นศาสนสถานสำหรับพระสงฆ์ประกอบพิธีและห้ามขึ้นไประเบียงชั้นสอง

5. กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะ และบริษัทนำเที่ยว ต้องทำหนังสือขออนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน และต้องให้วิทยากรของอาสนวิหารฯเป็นผู้บรรยายข้อมูล

6. กรณีหมู่คณะที่มิได้แจ้งล่วงหน้าตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ต้องลงบันทึกในสมุดเซ็นเยี่ยม และให้วิทยากรของอาสนวิหารฯเป็นผู้บรรยายข้อมูล

7. กรณีมีมัคคุเทศก์ประจำคณะ ห้ามมิให้มัคคุเทศก์บรรยายข้อมูลเอง ต้องติดต่อวิทยากรของ อาสนวิหารฯหรือหากมิประสงค์จะให้บรรยายสามารถขอรับแผ่นพับข้อมูลอาสนวิหารฯ ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.cathedralchan.or.th/
พิกัดทางเข้าอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล - N12.60937 E102.11941


ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร