12 สิงหาคม 2554
สวัสดีครับ เคยได้ยินชื่อ “เหมืองสมศักดิ์” หรือ “บ้านป้าเกล็น” กันบ้างหรือไม่ครับ ถ้าเป็นคนคอออฟโร้คก็คงจะเคยได้ยินกันมานานแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ในระยะหลังๆนี้ก็คงพอได้ยินกันมาบ้างจากสื่อโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต “คุณสมศักดิ์” หรือ “ป้าเกล็น” เขาเป็นใคร เขาทำอะไร ทำไมสื่อจึงสนใจเขา วันนี้ผมจึงมาชวนทุกท่านไปรู้จักกับ “คุณสมศักดิ์” กับ “ป้าเกล็น” กันครับ
คุณสมศักดิ์ เสตะพันธุ เป็นบุตรของร้อยตรี สมจิตร และนางมาลี เสตะพันธุ มีพี่น้องรวม 5 คน โดยคุณสมศักดิ์เป็นบุตรชายคนโต และเป็นบุตรคนเดียวที่สืบสานตำนานเหมืองแร่ต่อจากบรรพบุรุษ ได้ศึกษาสำเร็จปริญญาโท สาขาวิศกรรมเหมืองแร่ ที่ประเทศออสเตรเลีย และได้นำความรู้ที่ร่ำเรียนมาพัฒนาธุรกิจเหมืองแร่ได้อย่างทันสมัย ทำให้ยุคที่นำโดยนายเหมืองคุณสมศักดิ์เป็นยุคที่รุ่งโรจน์มาก ในยุคนั้นมีคนงานกว่า 600-700 คน ทำงานเป็นกะทั้งกลางวันและกลางคืน มีเขตสัมปทานอยู่ที่ ส.จ.1 ในพื้นที่สัมปทานกว่า 500 ไร่ และเป็นอีกเหมืองหนึ่ง (เหมืองฉีด) ที่มีขนาดใหญ่และเป็นที่รู้จักเลื่องชื่อใน ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แร่ดีบุกที่ผลิตจากที่นี่หลังจากถูกคัดกรองแล้ว จะส่งที่ จ.ภูเก็ต เพื่อทำการถลุง ก่อนจะส่งออกสู่ตลาดโลกต่อไป
เมื่อครั้งคุณสมศักดิ์ ได้ไปศึกษาที่ประเทศออสเตรเลีย ได้พบรักกับคุณเกล็นนิส เจอร์เมนไวท์ ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันและได้หมั้นหมายกันที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลากว่า 4 ปี และเมื่อคุณสมศักดิ์สำเร็จการศึกษาก็ได้พาคุณเกล็นนิส กลับมาแต่งงานและใช้ชีวิตกันที่เมืองไทย งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่มีความหมาย ณ โบสถ์วัฒนา เมื่อปี ค.ศ.1967 คุณสมศักดิ์ได้ให้คุณเกล็นนิสอยู่บ้านที่กรุงเทพ มีหน้าที่ดูแลบุตรชายคนเดียว ส่วนคุณสมศักดิ์อยู่ทำเหมืองที่ปิล๊อก จะกลับมาทุกๆอาทิตย์และยามว่าง
เมฆหมอกแห่งความยุ่งยาก รุกคืบเข้ามาเมื่อปี ค.ศ.1984 สภาพเหมืองแร่เริ่มมีปัญหา สภาเหมืองแร่ของโลกกำลังถูกท้าทายจาก (อดีต) สองมหาอำนาจแห่งเอเชีย ซึ่งต่อมาไม่นานความขัดแย้งได้ส่งผลอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมเหมืองแร่ทั่วโลก รวมทั้งหุบเขาเล็กๆที่ไม่เป็นที่รู้จักของคนนอกพื้นที่อย่างปิล๊อกด้วย
ป้าเกล็น เล่าให้ผมฟังว่า “จีน กับ รัสเซีย ไม่ยอมทำตามข้อตกลงของสภา พวกเขาระบายแร่ดีบุก จำนวนมหาศาลออกสู่ตลาด และมันทำให้ราคาของแร่ดีบุกลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหมืองแร่ทั้งโลก รวมทั้งเหมืองของเราด้วย”
จากนั้นอีกประมาณ 2 ปี เหมืองแร่ต่างๆในประเทศไทยทยอยปิดตัว เนื่องจากไม่อาจต้านทานสถานการณ์โลกได้ ประจวบกับราคาแร่ตกต่ำจนทำให้ขาดทุนกันไปตามๆกัน วันเวลาและยุคทองของเหมืองแร่ดูเหมือนจะค่อยๆปิดฉากลง ไม่ต่างกับม่านชีวิตของหลายๆคน คนที่มีโชคชะตาผูกพันใกล้ชิดกับเหมืองแร่และไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับนายเหมืองสมศักดิ์ ที่ทนรับสภาวะการขาดทุนไม่ไหว จึงปิดตัวเองในที่สุด
คุณสมศักดิ์ต้องตรอมใจกับเหตุการณ์นี้มากๆ ส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมลง ประกอบกับบุตรชายเติบโตจนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว คุณเกล็นนิสจึงลาออกจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ออกมาปรนนิบัติดูแลคุณสมศักดิ์ด้วยตัวเองที่เหมืองปิล๊อก ที่ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดเลยๆ ทำให้คุณเกล็นนิสได้รับรู้ว่าคุณสมศักดิ์รักและผูกพันกับเหมืองและคนงานแห่งนี้มาก เรียกได้ว่ามันคือชีวิตและจิตใจของคุณสมศักดิ์เลยก็ว่าได้ คนงานก็เปรียบเสมือนเป็นพี่เป็นน้อง มีแต่ความเป็นห่วงเป็นใยและกลัวทุกคนจะลำบาก แม้แต่การสนทนาครั้งสุดท้าย คุณสมศักดิ์ยังคงบ่นเป็นห่วงคนงานเก่าแก่ทั้งหลายที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
คุณเกล็นนิสบอกกับคุณสมศักดิ์ว่า “ฉันจะไม่ทิ้งคนงานทุกคนไปไหน จะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่เหมือง จะเป็นคนดูแลคนงานทุกๆคนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” คุณเกล็นนิสยังบอกด้วยว่า “พี่ศักดิ์ไม่ต้องเป็นห่วงฉันและทุกๆคน” คุณสมศักดิ์ยิ้มและถามกลับมาว่า จะทำยังไง? ถ้าทำไม่ได้ละ? คุณเกล็นนิสตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า “ทำได้สิ ต้องทำได้”และนั่นเป็นรอยยิ้มครั้งสุดท้ายจากคุณสมศักดิ์ ที่คุณเกล็นนิสได้เห็น และในเวลาไม่นานมะเร็งร้ายก็พรากชีวิตคุณสมศักดิ์ไปจากทุกคนอันเป็นที่รักไปตลอดกาล
เมื่อสิ้นคุณสมศักดิ์ไปแล้วคุณเกล็นนิสก็กลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่เหมืองแห่งนี้จริงๆ ด้วยความตั้งมั่นในความรักและคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับคุณสมศักดิ์ และนั่นเป็นแรงขับทำให้คุณเกล็นนิสใช้ชีวิตอยู่ที่ดินแดนที่ห่างไกลจากผู้คนแห่งนี้ได้อย่างสุขใจ โดยการแปรสภาพจากเหมืองแร่ มาเป็นรีสอร์ทเล็กๆในหุบเขาใหญ่ ภายใต้สโลแกนว่า “บ้านเล็กในป่าใหญ่” ปัจจุบันบ้านที่คุณเกล็นนิสพัก ก็ปรับปรุงมาจากโรงเก็บพัสดุเก่าของเหมืองแร่ และกลายเป็นห้องรับรองแขกที่มาพัก ซึ่งแรกๆส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากกรุงเทพฯ แต่ ณ ปัจจุบันมีนักเที่ยวจากทุกทั่วสารทิศเข้ามาแวะชมรีสอร์ทแห่งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือเรื่องราวของผู้หญิงเกร่งจากต่างแดนวัย 74 ปีในวันนี้ ที่ชื่อ “เกล็นนิส เจอร์เมนไวท์” หรือ "เกล็นนิส เสตะพันธุ" ที่ปัจจุบันแขกผู้มาเยือนจะเรียกเธอว่า “ป้าเกล็น” ครับ
บ้านป้าเกล็น มีบ้านให้นักท่องเที่ยวพักดังนี้ครับ
ห้องพักVIP
มี 1 ห้องนอนใหญ่ 1 ห้องน้ำ เตียงนอนใหญ่ นอนได้ 3-4 คน เหมาะสำหรับครอบครัว สามารถเสริมที่นอนได้ตามจำนวนคนรับได้ที่ 4-5 ท่าน
บ้านพักริมน้ำ
เป็นบ้านพักหลังใหญ่ มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องละ 4-5 เตียง ด้านหน้าติดฝายกั้นน้ำ ด้านข้างติดภูเขาเขียวขจี เหมาะสำหรับพักเป็นหมู่คณะใหญ่ มีพื้นที่ลานด้านหน้าเหมาะสำหรับจัดสังสรรค์
บ้านพักริมเนิน
เป็นบ้านพักเรือนแถว มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ บ้านพักอยู่ติดภูเขาเขียวขจี มีพื้นที่ด้านหลังใช้สำหรับบาบีคิวและจัดปาร์ตี้อย่างกว้างขว้าง
บ้านพักริมห้วย
เป็นบ้านพักจำนวน 2 ห้องติดกัน สามารถเพิ่มเบาะเสริมเพื่อพักรวมกันได้ แต่ละห้องพักได้ 4 ท่าน ด้านหน้าติดลานสนามบาส ด้านหลังติดริมห้วย ด้านหลังมีพื้นที่ไว้สังสรรค์แบบเป็นส่วนตัว
อาหารการกิน ทางป้าเกล็นจะจัดให้รวมอยู่ในแพคเกจอยู่แล้ว อาหารไม่ใช่บุพเฟ่ แต่จะจัดและเสริฟให้เป็นกลุ่มๆ ปริมาณตามจำนวนคน รับรองว่าไม่มีขาดมีแต่เหลือ ซึ่งรวมถึง ชา กาแฟ โอวัลติน และที่ขาดไม่ได้คือ ขนมเค็ก สูตรออริจินอลฝีมือป้าเกล็นเอง มีให้ชิมไม่อั้นตลอดรายการอีกด้วย รายการอาหารประจำวันจะมีดังนี้ครับ
อาหารเช้า
เสริฟ 2 แบบคู่กัน ขนมปัง แยม ไส้กรอก ไข่ดาว/ไขลวก และข้าวต้มหรือโจ๊ก ปรุงสดๆใหม่ๆ
อาหารเที่ยง
จะเสริฟอาหารไม่หนักมาก เช่น ข้าวผัด และต้มจืด / หรือกระเพราะ ไข่เจียว ต้มจืด (มื้อเที่ยงหากนักท่องเที่ยวมีโปรแกรมออกไปเที่ยวข้างนอก ก็จะจัดเป็นอาหารกล่องให้)
อาหารเย็น
จะเสริฟอาหารค่อนข้างเยอะ กับข้าวประมาณ 5-6 อย่าง (เช่น ปลาทับทิมทอด แกงป่าหมูใส่ผัก ซีโครงหมูผัด ผัดผัดรวม เป็นต้น) ทุกๆกลุ่มไม่ว่าจะมาจำนวนมากหรือจำนวนน้อย (ปริมาณจะเพิ่มให้ตามจำนวนคน) และที่พิเศษสุดหากพักคืนเดียวก็จะปิ้งบาร์บีคิวในคืนแรก หากพักสองคืนบาร์บีคิวจะมาในคืนที่สองอีกด้วย
ข้อมูลข้างต้นผมคัดลอก ตัดทอนมาจากเว็บไซต์ของคุณป้าเกล็น และเพิ่มเติมเองบ้างเล็กน้อย หากสนใจอยากติดตามเรื่องราวโดยละเอียด ก็ตามเข้าไปชมกันได้นะครับที่ www.parglen.com
พิกัดปากทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ (ทล 3272) : N14.66916 E98.38602
พิกัดทางแยกเข้าเหมืองสมศักดิ์ : N14.65489 E98.40428
พิกัดเหมืองสมศักดิ์ (บ้านป้าเกล็น) : N14.65427 E98.40152
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์
จุดชมวิว กิโลเมตรที่ 11 ในเส้นทางระหว่างไป อุทยานฯทองผาภูมิ |
สภาพเส้นทางที่มาจาก อ.ทองผาภมิ |
วิวทิวทัศน์ที่จุดชมวิว |
บรรยากาศในตลาดบ้านอีต่อง ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย |
เส้นทางไปเหมือสมศักดิ์ มีป้ายเตือนเป็นระยะ |
บรรยากาศแรกที่ถึงเหมืองสมศักดิ์ ป้าเกล็นออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง |
ป้าเกล็นผู้มีอัธยาศัยใจดี |
โต๊ะขนมเค็กฝีมือป้าเกล็น ตั้งไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน |
เค็กส้ม |
เค็กส้ม ราดท๊อปปิ้งมะนาว |
เค็กกล้วยหอม |
เค็กช๊อคโกแลต |
แค็คแครอท |
บรรยากาศโต๊ะอาหาร |
มุมพักผ่อนที่ตกแต่งอย่างน่ารัก |
โต๊ะทำงานของป้าเกล็น |
ความทรงจำดีๆ |
ชา กาแฟ เตรียมไว้ไม่อั้น |
เค็กทานได้ไม่อั้นเหมือนกัน |
โต๊ะอาหารคอยท่าผู้มายือน |
แม้แต่ห้องสุขา ยังตกแต่งได้อย่างลงตัว |
ป้าเกล็นอธิบายวิธีการทำเหมือง ผ่านแบบจำลอง |
แร่ดีบุกที่คัดแยกเสร็จแล้ว พร้อมส่งไปภูเก็ต |
บรรยากาศอาหารมื้อเย็น |
เมนูเด็ด |
อ่างเก็บน้ำ แหล่งพลังงานที่ใช้ในการปั่นไฟฟ้า |
ลำธารหน้าที่พัก |
บ้านริมเนิน ที่ผมพักทริปนี้ |
กล้วยไม้ริมลำธาร |
ติดต่อป้าเกล็นได้ตามนี้ครับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น