ทริปนี้พาไปนอนแพเล่นน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ที่ "ห้วยขาแข้งริเวอร์แค้มป์" หรือ "แพน้ำเอ่อ" ตั้งอยู่ที่ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ ใกล้กับหน่วยพิทักษ์ป่า ศร.9 (ไกรเกรียง) สมาชิกก็หน้าเดิมๆครับ
Cr: Pougun Sirisomboon |
เขื่อนศรีนครินทร์ (ชื่อเดิมเขื่อนเจ้าเณร) เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้นบนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นับเป็น เขื่อนแห่งที่ 8 ในจำนวน 17 แห่ง ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างขึ้นเพื่อ อำนวยประโยชน์ทางด้านต่างๆ ตลอดจนช่วยพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของราษฎร และส่งเสริมให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม
ประเภทเขื่อน : เขื่อนหินทิ้งแบบมีแกนดินเหนียว
(Rockfill Dam with Impervious Core)
(Rockfill Dam with Impervious Core)
ขนาด : สูง 140 เมตร ยาว 610 เมตร
ปีที่สร้างเสร็จ : 2523
ขนาดความจุอ่าง : 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร
กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้า : 720,000 กิโลวัตต์
ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละ : 1,250 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
แต่ช้าก่อน ทริปนี้คณะเราไม่ได้เข้าไปใกล้กับเขื่อนศรีนครินทร์เลย
แม้ว่าแพน่ำเอ่อจะตั้งอยู่ในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี แต่การเดินทางทางบกต้องไปทาง
จังหวัดสุพรรณบุรีครับ เนื่องจากที่หมายอยู่ตอนบนสุดของอ่างเก็บน้ำ จุดสีแดงในแผนที่นั่นละครับ
แต่ถ้าจะเดินทางจากตัวเขื่อนศรีนครินทร์ด้วยเรือ อาจต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงครับ
แผนที่จาก www.numaer.com |
ดูจากแผนที่ของแพน้ำเอ่อ ดูเหมือนไปง่ายๆครับ แต่เอาเข้าจริงแล้วเป็นอย่างนี้ครับ
เริ่มจาก หอคอยบรรหาร จ.สุพรรณบุรี ออกไปทาง ดอนเจดีย์ > เลาขวัญ
ด่านช้าง > ม่วงเฒ่า
ทุ่งมะกอก > ด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ (เขากระชาย) > แพน้ำเอ่อ
จากแยกบ้านทุ่งมะกอก ถึง แพน้ำเอ่อ เป็นทางดิน รวมระยะทางประมาณ
20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
จากแยกบ้านทุ่งมะกอก ถึง แพน้ำเอ่อ เป็นทางดิน รวมระยะทางประมาณ
20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
บ้านม่วงเฒ่า เป็นชุมชนใหญ่สุดท้ายที่แนะนำให้จอดซื้อหาเสบียงติดรถไปให้ครบ
จากจุดนี้ไปแล้วจะหาซื้อลำบาก ส่วนนักตกปลา ที่ม่วงเฒ่านี่มีร้านจำหน่าย
อุปกรณ์และเหยื่อตกปลาด้วยครับ จัดไปให้ครบเลยครับ
จากจุดนี้ไปแล้วจะหาซื้อลำบาก ส่วนนักตกปลา ที่ม่วงเฒ่านี่มีร้านจำหน่าย
อุปกรณ์และเหยื่อตกปลาด้วยครับ จัดไปให้ครบเลยครับ
ก่อนออกจากบ้านม่วงเฒ่า จะเห็นเสาโทรศัพท์ของ AIS ต้นนี้เป็นต้นสุดท้าย
หลังจากนี้แล้วจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์อีกแล้ว รวมถึงในน้ำเอ่อด้วย
ใครมีธุระกิจใดค้างอยู่ คุยซะให้เรียบร้อยในจุดนี้ครับ
แยกบ้านทุ่งมะกอก เราจะออกจากถนนดำเส้นนี้ตรงนี้ โดยขับตรงเข้าไปเลย
ถ้าขับตามโค้งขวาไปตามถนนจะไป ตะเพินคี่ พุเตย ครับ
ก็จะเริ่มเป็นถนนดินครับ ช่วงแรกๆจะมีสลับถนนปูนนิดหน่อยในช่วงที่เป็นทางชัน
คุณฝนก็โปรยปรายเป็นกำลังใจให้ตลอดทาง
ประมาณ 4-5 กิโลเมตร ก็จะถึงด่านตรวจอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ (เขากระชาย)
ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ด่านนี้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมครับ
หลังจากผ่านด่านนี้ไปก็ถือว่าเข้าเขตป่าละครับ
จากด่านฯประมาณ 7 กิโลเมตร จะเจอแยกนี้ ที่สังเกตุป้ายแพที่พักจำนวนมาก
ให้เลี้ยวซ้ายนะครับ ถ้าตรงไปจะไปบ้านน้ำพุ
ทางเริ่มแคบ สภาพถนนความยากระดับ 1-1.5 ดาวเท่านั้น
แต่ช่วงนี้หน้าฝน ดินนิ่ม รถเก๋งจะลำบากหน่อยครับ
จากแยกที่มีป้ายแพพักเยอะๆไปประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงปากทางเข้าแพแล้วครับ
คุณฝนใจดีก็ยังตามมาส่งเราไม่ไปไหนซะที จัดการอาหารเที่ยง
ในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ท่ามกลางสายฝนครับ
คุณฝนใจดีก็ยังตามมาส่งเราไม่ไปไหนซะที จัดการอาหารเที่ยง
ในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ท่ามกลางสายฝนครับ
เมื่อสมาชิกพร้อมสัมภาระพร้อมขนลงแพเรียบร้อย เขาก็จะลากแพเราออกไปประมาณ
1 กิโลเมตร แล้วผูกแพไว้ริมอ่างเก็บน้ำ ปล่อยเราไว้ตรงนี้ 3 วัน 2 คืน เพื่อให้เราได้สัมผัส
บรรยากาศ ผืนน้ำ ขุนเขา ธรรมชาติ และความสันโดด ตัดขาดโลกภายนอกทั้งปวงอย่าง
แท้จริง จึงต้องเตรียมอุปกรณ์ทุกชนิดไปให้พร้อมนะครับ เพราะจะไม่สามารถกลับไปเอา
ของที่รถได้จนถึงวันกลับเลยละครับ
1 กิโลเมตร แล้วผูกแพไว้ริมอ่างเก็บน้ำ ปล่อยเราไว้ตรงนี้ 3 วัน 2 คืน เพื่อให้เราได้สัมผัส
บรรยากาศ ผืนน้ำ ขุนเขา ธรรมชาติ และความสันโดด ตัดขาดโลกภายนอกทั้งปวงอย่าง
แท้จริง จึงต้องเตรียมอุปกรณ์ทุกชนิดไปให้พร้อมนะครับ เพราะจะไม่สามารถกลับไปเอา
ของที่รถได้จนถึงวันกลับเลยละครับ
Cr. Apinya Chawaranggoon |
สภาพความเป็นอยู่ 3 วัน 2 คืน คณะเรา 13 ชีวิต ติดอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขครับ
ไฟฟ้าไม่มี ไม่เป็นปัญหา โซล่าเรา เอามาเอง
ไฟฟ้าไม่มี ไม่เป็นปัญหา โซล่าเรา เอามาเอง
นอนบ้าง นั่งบ้าง ตามประสาคนไม่มีอะไรทำ
เงียบ
สงบ
อย่างที่มันเป็นมาแต่ไหนแต่ไร
กิจกรรมหลักของที่นี่
ท่าทางจะได้ตัวใหญ่ แต่คันเบ็ดไม่งอเลย
ได้แล้ว ปลากะมัง
เช้าวันที่ 2 ตื่นขึ้นด้วยความสดชื่น
ภาพมุมกว้าง
ลุยแต่เช้าเลย
หนังสือ คือความบันเทิงที่นำมาด้วยได้ ที่แพไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญานโทรศัพท์
เงียบ
สงบ
อย่างที่มันเป็นมาแต่ไหนแต่ไร
กิจกรรมหลักของที่นี่
ท่าทางจะได้ตัวใหญ่ แต่คันเบ็ดไม่งอเลย
ได้แล้ว ปลากะมัง
เช้าวันที่ 2 ตื่นขึ้นด้วยความสดชื่น
ภาพมุมกว้าง
ลุยแต่เช้าเลย
หนังสือ คือความบันเทิงที่นำมาด้วยได้ ที่แพไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญานโทรศัพท์
ไม่มีน้ำประปา มีเพียงไฟส่องสว่างจากโซล่าเซลเท่านั้นครับ
จึงเป็นทริปแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง
จึงเป็นทริปแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง
สองหนุ่มอาบน้ำ สร้างกระแสน้ำอุ่นด้วยหรือปล่าวไม่รู้
เห็นบอกว่ามีสปาปลาด้วย ตอดกันยุบยิบ
สายๆวันนี้ มีกิจกรรมนั่งเรือไปชมอุโบสถสแตนเลส แห่งเดียวในโลก
นั่งเรือหางไปด้วยระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร
นั่งเรือหางไปด้วยระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร
ขาไปแดดว่าแรงแล้ว ขากลับแรงยิ่งกว่า
จากปากทางเข้าแพ เลี้ยวซ้ายไปทางหน่วยฯ ศร.9 (ไกรเกรียง) เพียง 1 กิโลเมตร
ทางขวามือของถนน ก็จะพบกับน้ำตกนิรนาม (ที่จริงแล้วเป็นน้ำตกไม่มีชื่อครับ
เลยตั้งชื่อให้ซะเลย) แต่ผิดหวังเล็กน้อย น้ำตกกลายเป็นน้ำหยด
อยากบอกว่าข้างนอกยังมีอะไรอีกมากมายรอคุณอยู่
ไปเห็นด้วยตาคุณสิครับ ไปซะก่อนจะไม่มีแรงไป
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์
พิกัด GPS
บ้านม่วงเฒ่า - N14.78146 E99.35555
แยกทุ่งมะกอก - N14.83944 E99.32559
ด่านตรวจ อช.เขื่อนศรี (เขากระชาย) - N14.87286 E99.29786
แยกน้ำเอ่อ-น้ำพุ - N14.91062 E99.25391
ปากทางเข้าแพน้ำเอ่อ - N14.94425 E99.19625
แพน้ำเอ่อ - N14.94493 E99.19471
จุดผูกแพ - N14.94730 E99.18630
วัดปากลำขาแข้ง (อุโบสถสแตนเลส) - N14.92556 E99.12194
น้ำตกนิรนาม - N14.95071 E99.19594