วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 06-ตอนจบ (จอร์จทาวน์ ปีนัง)

วันที่ 16 ตุลาคม 2556 - การเดินทางวันที่ 8 ของทริปและเป็นเมืองสุดท้ายในประเทศมาเลเซีย วันนี้ผมจะเดินทางไป "จอร์ชทาว ปีนัง" ครับ

ปีนัง (เรียกเฉพาะไทย) หรือ จอร์จทาวน์ (อังกฤษ: George Town ; เดิมสะกดว่า Georgetown; จีน: 乔治市; ทมิฬ: ஜோர்ஜ் டவுன்) มีชื่อเป็นภาษามาเลย์ว่า ตันจุง (มาเลย์: Tanjung) เป็นเมืองเอกของรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนัง ตัวเมืองมีประชากร 720,202 คน แต่หากรวมปริมณฑลคือเกาะปีนัง, เซบรังไปร, ซูไงปตานี และกูลิม ก็จะมีประชากร 2,251,042 คน และจะถือเป็นมหานครที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 จอร์จทาวน์และมะละกาถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใคร ทั้งในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (วิกิพีเดีย)

ความเดิมจากตอนที่แล้ว ที่วางแผนไว้ว่าหลังอาหารเช้าสุดหรูแล้วสายๆก็จะออกเดินทาง ไปกินมื้อเที่ยงที่จอร์จทาวน์ แต่มีเหตุให้ต้องรอช่างมาช่วยพ่วงแบตฯกว่าจะได้ออกจาก Awana Hotel ก็เวลา 11.50 น. เข้าไปแล้ว ตั้งเข็มที่หมายใหม่ในวันนี้ "เมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง" ครับ เกลอเก่า Nuvi205 แนะนำให้ผมใช้ถนนสาย B66 เส้นที่ผ่านหน้าสถานีกระเช้า Genting Skyway Lower Station ขับขึ้นเหนือไปเรื่อยๆแล้วไปเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1 อีกทีครับ

ขับรถมาได้สักชั่วโมงกว่าก็เห็นทีจะต้องหามื้อกลางวันกันก่อน ถ้าหิ้วท้องไปจอร์จทาวน์กลัวว่าจะหิวข้าวจนหน้ามืดกันไปซะก่อน ว่าแล้วพอถึงเมือง Tanjung Malim ก็เลยแวะ KFC Tanjung Malim จัดการอาหารเที่ยงกันซะให้เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานครับก็เดินทางกันต่อ เส้นทางนี้จะผ่านเมือง Ipho ที่ผมตั้งใจจะแวะแต่ไม่มีโอกาสได้แวะ เมือง Ipho เป็นเมืองที่เรื่องราวมากมาย คงต้องหาโอกาสมาเยี่ยมอีกครั้ง

ระยะทาง 335 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกันถึง 5 ชั่วโมง เนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่ไม่ใช่ทางด่วน กว่าจะถึงจอร์จทาวน์ก็ปาเข้าไป 17 น.แล้วครับ ผิดแผนไปมาก เริ่มตั้งแต่ออกเดินทางล่าช้า ถนนทำความเร็วไม่ได้มาก และอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เสียเวลาก็ตรงที่ต้องต่อแถวแย่งกันขึ้นสะพานปีนังครับ รถมากแต่ช่องเก็บเงินเปิดใช้งานน้อยไปหน่อยครับ ทำให้รถเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ สะพานปีนังเก็บค่าผ่านทางเฉพาะขาข้ามไปเกาะเท่านั้น ฝั่งกลับกันไม่มีด่านเก็บค่าผ่านทางครับ

รัฐปีนัง ประกอบไปด้วยเกาะปีนัง และแผ่นดินที่มีความยาวซึ่งรู้จักในนาม Seberang Parai (ในอดีตคือ จังหวัด Wellesley) เชื่อมโยงพื้นที่สองส่วนไว้ด้วยสะพานปีนัง ซึ่งเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความยาว 13.5 กิโลเมตร ผมวนหาโรงแรมอยู่ไม่นานก็ถึงที่พักของเราวันนี้ Hotel Sentral George Town ปรากฏว่าเครือเดียวกับโรงแรมที่ KL

Hotel Sentral George Town เป็นโรงแรมขนาดเล็ก วันที่เข้าพักมีทัวร์ลงทำให้พนักงานบริการแทบไม่ทัน รอห้องอยู่นานทีเดียว

จากโรงแรมสามารถมองเห็นตึกคอมตาร์ (KOMTAR-Kompleks Tun Abkul Razak) ดูเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจอร์จทาวน์


นอนพักเรียกแรงสักครู่ ก็ออกเดินชมเมืองกันพอเป็นพิธี เห็นอารมณ์ศิลป์ของคนที่นี่แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ครับ

หกโมงกว่าแล้วครับ วันนี้ไม่ได้ไปไหนเลย เดินหาร้านกินมื้อเย็นกันดีกว่า ก็มาเจอร้านนี้ครับ DeHappyกัปตันพูดไทยได้ คุยกันไปมาบอกว่าเคยไปทำงานที่เมืองไทยด้วย ฮากันไป...


ร้านนี้มี wifi ให้ใช้ฟรีด้วยนะครับ

บรรยากาศภายในร้าน

อาหารมื้อเย็น พอจัดการเสร็จแล้วเดินเล่นย่อยอาหารเล็กน้อย จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนครับ พรุ่งนี้วางแผนว่าจะไปขึ้นปีนังฮิลล์กันครับ

วันที่ 17 ตุลาคม 2556 - วันที่ 9 ของการเดินทาง เช้านี้หลังจัดการอาหารเช้าเสร็จแล้วเราคืนห้องเลย ผมกะว่าไปขึ้นปีนังฮิลเสร็จแล้วจะเดินทางออกจากจอร์จทาวน์ไม่ต้องย้อนมาที่พักอีก ไม่อยากข้ามแดนตอนเย็นๆ

ถึงแล้วครับ ปีนังฮิลล์ (Penang Hill Lower Station) ช่วงที่ผมไปที่จอดรถยังกำลังก่อสร้างอยู่ เลยต้องหาที่จอดริมถนน

 ค่าตั๋วรถรางผู้ใหญ่ไปกลับคนละ RM30
 
 ซื้อตั๋วได้ที่นี่ครับ

ได้ตั๋วมาแล้ว

สองหนุ่มน้อยนักเดินทาง

 จังหวะดีได้ยืนหน้าสุด ติดกับที่นั่งคนขับเลย

แอบดูจอคอนโทรล ของพี่คนขับซะหน่อย

ถาพนี้ถ่ายลงมาจากสถานีบนเขา มีลอดอุโมงค์ด้วยนะ

ทั้งรถทั้งชานชลาเขาจะเฉียงๆเอียงๆอย่างนี้ละครับ แสดงว่าเขาต้องวางรางเอียงเป็นระนาบเดียวกันตลอดทาง

สะพานปีนังไกลลิบ อากาศไม่เปิดเท่าไหร่

วัดฮินดูบนยอดเขาปีนังฮิลล์ ที่จริงมีมัสยิดด้วยครับ แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมา

พระศิวะ (คนไทยเรียกว่า พระอิศวร) เป็นบิดาของพระพิฆเนศ มีชายาคือพระแม่อุมาเทวี พระศิวะทรงเป็นมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล หนึ่งในตรีมูรติ หรือ 3 มหาเทพสูงสุดแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ) (สยามคเณศ ดอทคอม)

พระศิวะ นั้นเป็นเทพที่จะอำนวยพรประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงวัว เลี้ยงม้า หรือเลี้ยงแกะ และอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรทั้งปวง ก็จะมีความสำเร็จและมีความสมบูรณ์พูนสุข หากบวงสรวงบชาพระศิวะ

ขาลงได้นั่งท้ายสุด ผู้โดยสารไม่แน่นเหมือนขาขึ้น ช่วงวันที่ผมไปเป็นวันกลางสัปดาห์ผู้คนจึงไม่หนาแน่นมากนัก ประมาณ 10.00 น. เราก็ออกเดินทางกลับบ้านกัน ข้ามสะพานปีนัง มุ่งหน้าด่านจังโหลน

ระยะทางจากจอร์จทาวน์ถึงด่านจังโหลนประมาณ 163 กิโลเมตร ทั้งแวะกินข้าว เข้าห้องน้ำ เติมน้ำมัน (ริมชายแดนให้เติมได้ครั้งละ 20 ลิตรเท่านั้น) เราก็ถึงด่านจังโหลนในเวลาประมาณ 15.00 น. ตอนแรกคิดจะแวะร้านค้าปลอดภาษีในฝั่งมาเลเซีย ปรากฏว่าพอถึงด่านปุ๊ป ฝนก็เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เลยต้องยกเลิกการแวะร้านค่าปลอดภาษี

เข้าด่านจังโหลนของมาเลเซียครับ ทั้งขาเข้าและขาออก ผมไม่เห็นเขาให้สแกนนิ้วมือเลยนะ แล้วก็ไม่ต้องลงจากรถเลยทุกคน เพียงยื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ในตู้เท่านั้น

เข้าด่านสะเดาของประเทศไทยบ้าง พบว่ายังไม่ทันสมัยเหมือนทางด่านมาเลเซีย ต้องนำรถไปจอดแล้วทั้งผู้โดยสารและคนขับต้องไปต่อแถวเพื่อตรวจลงตราในการเข้าประเทศที่ป้อมเจ้าหน้าที่ครับ

หลังจากผ่านพิธีการทางศุลการกรและตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แวะทักทายน้อง Xkung Akkarapongpun และ Nareerat Natreera ผู้ซึ่งเลือกเดินตามทางของตัวเองด้วยการหันหลังให้เมืองหลวงแล้วผันตัวไปเป็นนายหัวทำสวนยางฯ นับถือครับ
แผนกรับแขก เจ้าไข่ตุ๋น
คุยกันไม่นานก็ต้องขอลากลับ วันนี้ตั้งใจจะแวะนอนทีสุราษฯ แล้วก็ไม่ลืมที่จะขอรับมะม่วงเบาแช่อิ่ม ที่น้องหน่อยตั้งใจทำไว้รอ ขอบคุณครับ โอกาสหน้าจะมารบกวนอีก

ด้วยโมงยามที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วทั้งยังแวะซื้อของฝากที่หาดใหญ่อีก ทำให้เราฝ่าความมืดและความหิวไปยังสุราษฯไม่ไหวจึงขอแวะพักที่นครฯดีกว่า รุ่งเช้าค่อยว่ากันใหม่
อาหารเย็นที่ร้าน "ครัวทะเล" เมืองนครฯครับ

วันที่ 18 ตุลาคม 2556 - วันที่ 10 ของการเดินทาง เปิดโทรศัพท์ลองหาร้านดังเป็นมื้อเช้าดูสิ ผลการค้นหาออกมาที่ร้านนี้ครับ "ตังเกี๋ย แต่เตี้ยม" มีกาแฟเวียนนามให้ชิมด้วย เสร็จแล้วก็ออกเดิทางกลับบ้านกัน

เที่ยงแล้วผ่านอำเภอไชยาพอดี แวะกินมื้อเที่ยงกันที่ร้าน "ราตรีซีฟู๊ด" ปากน้ำพุมเรียง

ปัญหาในชีวิตคนเราไม่หมดง่ายๆครับ เบื้องบนจะทดสอบเราเสมอ ในระหว่างจอดพักรถพักคน ก็เริ่มเห็นรอยน้ำมันกระเด็นใส่เครื่อง ในใจคิดว่าคงจะมีอีกงานแน่แล้ว แต่ยังใจชื้นตรงที่ว่าได้ข้ามแดนมาเรียบร้อยแล้ว ลองขยับใบพัดลมหน้าเครื่องดูปรากฏว่ามันติดไม่ขยับเลย (ที่ถูกต้องในขณะดับเครื่องยนต์ เมื่อเราดันใบพัดลม ใบพัดลมจะต้องหมุนได้บ้าง แต่จะหมุนแบบหนืดๆพอตึงมือ)

ไม่รอช้าติดต่อสายด่วนลูกกลิ้ง 3311 ( http://www.giantservice.com ) ได้ความว่าฟรีปั๊มพัดลมหน้าเครื่องคงใส้แตก ถึงมีน้ำมันไหลกระเด็นออกมาอย่างนั้น และคงเสียชีวิตไปแล้วถึงติดไม่หมุนขนาดนั้น ขอแนะนำให้หาที่หลับที่นอนแถวปราณบุรีเพื่อซื้ออะไหล่ที่เซียงกงปราณแล้วให้ช่างแถวนั้นเปลี่ยนให้จะปลอดภัยกว่า หากดื้อรั้นจะเข้ากรุงเทพฯทั้งอย่างนั้นเกรงว่าพัดลมจะขาดปัญหาจะบานปลายจะได้เรียกรถลากแน่

เอาละสิฟ้าก็มืดแล้วหาที่นอนที่ไหนดี ก็ได้น้องคนในพื้นที่ Hanu Niphon แนะนำที่พักให้ที่ "บ้านประดับดาว" ขอบคุณทั้งสองคนเลยครับ

วันที่ 19 ตุลาคม 2556 - วันที่ 11 ของการเดินทาง รุ่งเช้าออกมาซื้ออะไหล่ หาอู่ซ่อมรถ หมดไปครึ่งวัน กลับเข้าไปรับลูกทัวร์ที่รออยู่ที่บ้านประดับดาว เก็บของเสร็จก็เป็นมื้อเที่ยงพอดี


มื้อเที่ยงขอสั่งลาอาหารทะเลที่ร้าน "อุดมโภชนา" ปากน้ำปราณบุรีก็แล้วกัน จากนั้นก็ออกเดินทางถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคน ^_^ เป็นอันจบทริปขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายูอย่างเป็นทางการครับผม

การเดินทางทริปนี้ ระหว่างวันที่ 8 ถึง 19 ตุลาคม 2556 ระยะทางรวมทั้งสิ้น 4,040 กิโลเมตร


บทสรุปของการเดินทางในทริปนี้

พบว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวในประเทศมาเลเซียไม่ยากนัก แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมในทุกด้าน ถนนส่วนที่เป็นทางด่วน (เสียค่าผ่านทาง) จะมีสภาพดีเป็นพิเศษ ถนนท้องถิ่นก็สูสีกับบ้านเรา น้ำมันดีเซลลิตรละ 20 บาท แต่ต้องเติมเองน้อยแห่งที่จะมีเด็กปั๊ม

ทั้งยังได้บรรลุความฝันอีกหนึ่งอย่าง (ยังเหลืออีกหลายอย่างครับ ^_^) ในการขับรถเดินทางไกลเพื่อการท่องเที่ยว เดินทางคันเดียว คิดอ่านวางแผนอยู่คนเดียว หาข้อมูลอยู่คนเดียว ตัดสินใจอยู่คนเดียว จบทริปแล้วก็ยังรู้สึกสนุก ตื่นเต้นและดีใจที่ทริปนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีปัญหาเรื่องรถอยู่บ้างแต่ก็เล็กน้อยและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ถือเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ของผมอีกครั้งหนึ่งครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีครับ

ขอบคุณที่ติดตามชมและสวัสดีครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์



พิกัด GPS

KFC Tanjung Malim : N3.69546 E101.51586
Hotel Sentral George Town : N5.41559 E100.32717
Dehappy Seafood Restaurant : N5.41499 E100.32704
Penang Hill Lower Station : N5.40836 E100.27720
Penang Hill Upper Station : N5.42361 E100.26938
ด่านจังโหลน มาเลเซีย : N6.51255 E100.41992
ด่านสะเดา ไทย : N6.51998 E100.41899
ร้านครัวทะเล นครฯ : N8.44020 E99.96533
รัานตังเกี๋ยแต่เตี้ยม นครฯ : N8.42733 E99.97593
ประดับดาวรีสอร์ท ประจวบฯ : N12.38315 E99.99458
ร้านอุดมโภชนา ประจวบฯ : N12.40206 E99.99434



สารบัญขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู 

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 01 (หาดใหญ่-คาเมรอน ไฮแลนด์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 02 (คาเมรอน ไฮแลนด์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 03 (มะละกา)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 04 (กัวลาลัมเปอร์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 05 (เก็นติ้ง ไฮแลนด์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 06-ตอนจบ (จอร์จทาวน์ ปีนัง)

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 05 (เก็นติ้ง ไฮแลนด์)

วันที่ 15 ตุลาคม 2556 - เป็นการเดินทางวัน 8 ของทริปครับ วันนี้เราจะออกจากโรงแรมที่กัวลาลัมเปอร์แล้วมุ่งหน้าไป "เก็นติ้ง ไฮแลนด์" ดินแดนที่สูงแห่งความสนุกกันครับ

ข้อมูลการท่องเที่ยวกล่าวว่า "เก็นติ้ง ไฮแลนด์" เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจบนท้องฟ้าของมาเลเซีย โดยอยู่กลางหุบเขา Gunung Ula Kall เก็นติ้ง ไฮแลนด์ มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร และเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทนำสมัย จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดของที่นี่คือ บ่อนคาสิโนครบวงจร ที่มีทั้งโรงแรม เลาจน์ชมการแสดง และดิสโก้เธค บนหุบเขามีทั้งสวนสนุกทั้งแบบในที่ร่ม และแบบกลางแจ้งมีทั้งเครื่องเล่นท้าความเร็วอย่างโรลเลอร์ โคสเตอร์และเครื่องเล่นสำหรับครอบครัว (sawasdeemalaysia.com) แต่จังหวะเราไม่ดีนักช่วงที่เราไปเครื่องเล่นกลางแจ้งปิดให้บริการแล้วอย่างถาวร แหล่งข่าวกล่าวว่าเขาจะสร้าง The Twentieth Century Fox World theme park ขึ้นมาแทนครับ

ผมเดินทางออกจากโรงแรมประมาณ 12.30 น. แวะกินข้าวเที่ยงที่ร้าน Oldtown White Coffee Sri Seronok ร้านนี้ผมมีโอกาสลองชิมผัดหมี่หุ้น ตามด้วยโอเลี้ยงสูตรโบราณ แถมยังซื้อกาแฟแบบซองกลับไปกินที่บ้านด้วยครับ



กว่าจะออกเดินทางจริงๆได้ก็บ่ายสองโมงกว่า ด้วยระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นก็ถึงโรงแรมที่พัก "Awana Hotel" 


เหตุที่ใช้เวลาเดินทางไม่มากเพราะโรงแรมที่ผมเลือกอยู่เชิงเขาข้างล่างครับ ที่เลือกพักข้างล่างเพราะวางแผนจะขึ้นกระเช้าชมวิวครับ โดยสืบทราบมาแล้วว่าที่โรงแรมนี้มีรถบัสรับส่งแขกที่พักระหว่างโรงแรมกับสถานีกระเช้าไฟฟ้า (Genting Skyway) ด้วยครับ ระยะทางจากที่พักถึงสถานีกระเช้าไฟฟ้าก็ประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น


ด้านหน้าโรงแรม


 มีรอบการรับส่ง ไปสถานีกระเช้าดังนี้ครับ


นอนพักได้ยกนึงพอสดชื่นขึ้นมากแล้วก็เรียกลูกทัวร์ขึ้นกระเช้าไปเที่ยวเก็นติ้งกัน ปรากฏว่ายังมีเวลาเหลือกว่ารถจะมารับร่วม 45 นาที ไปยิงธนูฆ่าเวลากันดีกว่า

  รถที่มารับเป็นรถบัสคันใหญ่ นั่งสบายครับ


 ค่าตั๋วกระเช้าแบบไปกลับราคาคนละ RM12


ผู้โดยสาร 4 คน ได้ตั๋วมา 1 ใบ 2 ส่วน ขาไป RM24 ขากลับอีก RM24


หลังคาเป็นโพลีฯ แสงเลยเพี้ยนไปมากเลยครับ

ตื่นเต้นดีเหมือนกัน แต่ละกระเช้านั่งได้มากสุด 8 คน แบ่งเป็น 2 แถวละ 4 คน นั่งหันหลังชนกัน



มีดำทะลุทะเลหมอกด้วยครับ กระเช้าใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงปลายทาง ก็เดินเล่นสักพักก็ได้เวลาอาหารเย็นกันอีกแล้ว ร้านอาหารเยอะมาก หลากหลายสไตล์ เดินเลือกอยู่สักพักก็ได้ร้านอาหารจีนครับ แต่ปรากฎว่าลืมถ่ายภาพหน้าร้านมา เลยจำไม่ได้ว่าร้านอะไร ต้องขอโทษด้วยครับ ก่อนเดินทางศึกษาแผนที่บนเก็นติ้งมาอย่างดี พอเอาเข้าจริงๆเกิดอาการงง เดินมั่วไปหมดเลยครับ ไม่รู้อะไรอยู่ตรงไหน ดูป้ายอย่างเดียว

เมนูนี้เด็กๆชอบมาก ประมาณว่าอดอยากปากแห้งไม่ได้กินหมูมาหลายมื้อ ^_^




อิ่มแล้วก็ออกเดินเล่นกัน อย่างที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้นว่า Outdoor Park ปิดให้บริการแล้ว ส่วน Indoor Park ก็เหมาะสำหรับเด็กๆมากว่า ก็เลยได้แค่เดินเล่นเฉยๆ


ที่น่าสนใจก็คือ "คาสิโน" แต่เขาอนุญาตเฉพาะผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปเท่านั้น ก็เลยตัดสินใจไม่เข้ากันทั้งหมดเลย เดินเล่นต่อดีกว่า


อันนี้ละกัน ไม่จำกัดอายุ ^_^


เดินเล่นจนเวลา 19.30 น. ผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้สอบถามให้แน่ใจว่ากระเช้าขาลงปิดให้บริการกี่โมง ก็เลยแวะถามพนักงานรักษาความปลอดภัย แกบอกว่าปิด 20.00 น. เท่านั้นแหละครับ วิ่งกันกระเจิง พอมาถึงสถานีกระเช้าเหลือเวลาไม่ถึง 2 นาทีจะ 20.00 น. ก็พบป้ายบอกว่ากระเช้าเขาให้บริการถึง 24.00 น. ปัดโธ่เอ้ย วิ่งกันแทบแย่


ขาลงฟ้ามืดสนิท มีเพียงไฟส่องสว่างจากเสาแขวนเคเบิลเท่านั้น


เหมือนอยู่ในใต้ทะเลลึก


ภาพสถานี Genting Skyway Lower Station ตอนกระเช้าจะเข้าเที่ยบท่า รอรถของโรงแรมพักใหญ่ๆก็ได้ขึ้นรถกลับที่พักครับ ที่สถานีนี้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถมาจอดได้ด้วยนะครับ ทางด้านขวาของภาพจะเป็นอาคารจอดรถครับ แต่คงจะเสียค่าจอดครับ


บรรยากาศบริเวณโรงแรมยามเช้าครับ


อาหารเช้าที่นี่ถือว่ามาตรฐานสากลที่สุดในทริปแล้วครับ ผมใช้เวลากับห้องอาหารที่นี่นานมาก หลังจากนี้เราจะออกจากที่พักมุ่งหน้าไปปีนังกัน ซึ่งจะเป็นเมืองสุดท้ายในมาเลเซียของทริปนี้แล้วละครับ

แต่ก็เจอปัญหาจนได้ เจ้าลูกชายดันลืมปิดตู้เย็นเจ้ากรรม ทำให้แบตเตอร์รี่รถหมดเกลี้ยง สตาร์ทรถไม่ได้ ต้องจอดรอความช่วยเหลือจากฝ่ายช่างของโรงแรมอยู่เป็นชั่วโมง แต่ก็ผ่านปัญหามาได้อย่างไม่ยากเย็นนักครับ ก็มอบให้เป็นประสบการณ์ของเจ้าลูกชายด้วยครับ
จบรายการเก็นติ้ง ไฮแลนด์ ไว้แต่เพียงเท่านั้ครับ ตอนต่อไปจะเป็น จอร์จทาวน์ ปีนังครับ
สวัสดีและขอบคุณที่ติดตามชมครับ
นายทัศนาจร ออนไลน์


Oldtown White Coffee Sri Seronok : N3.10299 E101.73469
Awana Hotel : N3.39917 E101.78243
Genting Skyway Lower Station : N3.40799 E101.76417
Genting Skyway Upper Station :N3.42267 E101.79142




ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 01 (หาดใหญ่-คาเมรอน ไฮแลนด์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 02 (คาเมรอน ไฮแลนด์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 03 (มะละกา)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 04 (กัวลาลัมเปอร์)

ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 05 (เก็นติ้ง ไฮแลนด์)


ขับเดี่ยวเที่ยวแหลมมลายู ตอนที่ 06-ตอนจบ (จอร์จทาวน์ ปีนัง)